สะโพกวัดตรงไหน ใครบ้างเหมาะสำหรับการเสริมสะโพก

สะโพกวัดตรงไหน สาว ๆ ต่างก็อยากมีสะโพกผาย และงอน ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสะโพกสวยได้ดังที่คิด สาว ๆ ยุคนี้จึงได้หันมาทำศัลยกรรมเสริมก้น เสริมสะโพกกัน และสาวหุ่นดีเค้าวัดสะโพกกันตรงไหน เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ซึ่งตามหลักทางการแพทย์แล้วก้นหรือสะโพกที่สวยต้องมีสัดส่วนที่พอเหมาะ โดยวัดส่วนที่แคบที่สุดคือบริเวณเอวเทียบกับส่วนที่กว้างที่สุดคือสะโพก

ซึ่งอัตราส่วนจะอยู่ที่ประมาณ 0.7 พูดง่าย ๆ คือต้องมีเอวคอด สะโพกที่ผายได้สัดส่วนที่พอเหมาะ ส่วนก้น จุดที่นูนที่สุดต้องอยู่บริเวณ 1 ส่วน 3 ของด้านบน นี่คือสัดส่วนที่สวยตามหลักการแพทย์

หากสาว ๆ ไม่ได้มีหุ่นที่ดีตามที่ตัวเองพอใจ เช่น ไม่ได้มีสะโพกที่ผาย ไม่ได้มีเอวที่คอด คงต้องมองหาวิธีที่จะเพิ่มสะโพกของตัวเองให้มีสะโพกที่ผาย เพื่อที่จะให้ตัวเองมีเอวที่คอด ด้วยการเสริมสะโพก ซึ่งการเสริมสะโพกก็ยังมีหลายวิธี โดยก่อนที่จะเข้ารับบริการเสริมสะโพกท่านต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด

การผ่าตัดเสริมสะโพก เป็นการที่จะทำให้ตัวเองมีรูปร่างให้เห็นส่วนเว้า ส่วนโค้งของเอว ในการผ่าตัดเสริมสะโพกนั้นจะช่วยทำให้มีสะโพกผายกว้าง กระชับ กลมกลึง ไม่แคบและแบนราบเหมือนในอดีต ช่วยทำให้มีสัดส่วนของเอว สะโพก ต้นขา สวยสมดุล และไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือมีปัญหาแทรกซ้อนมากเหมือนการไปรับการฉีดซิลิโคน

การผ่าตัดเสริมสะโพกจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณ ร่องก้น ยาวประมาณ 4-5 ซ.ม. จากนั้นใส่ ถุงซิลิโคน (Buttocks impaints) เป็นรูปทรงกลม หรือทรงรี แล้วแต่ความเหมาะสม เข้าไปใต้กล้ามเนื้อก้น  ที่อยู่ระหว่างกล้ามเนื้อส่วนนอกและส่วนกลาง ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ที่ช่วยลดปัญหาการเคลื่อนที่ของถุงซิลิโคน ซึ่งอาจจะทำให้ระดับของสะโพกไม่เท่ากันสองข้าง และอาจเกิดพังผืดได้

บทความแนะนำ “ดูดไขมัน” โดยแพทย์สอนดูดไขมัน By Rattinan.com

การเสริมสะโพกจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ

• ผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยการใช้ถุงซิลิโคน (Buttock Implants)

การผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยถุงซิลิโคน เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะโพกไขมันน้อย เป็นวิธีการแรก ๆ ที่ใช้ในการศัลยกรรมเสริมสะโพก เป็นวิธีที่แพทย์มักแนะนำเนื่องจากมีความปลอดภัยและได้ผลดีที่สุด โดยศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณร่องก้นและใส่ถุงซิลิโคนเข้าไป

ข้อดี

• สามารถผ่าตัดได้ทันทีแม้ไม่มีไขมัน
• สามารถกำหนดขนาดที่ต้องการได้
• เมื่อต้องการเอาออกสามารถเอาออกได้ทั้งถุงซิลิโคน
• การเสริมซิลิโคนสามารถแก้ปัญหาก้นห้อยได้

ข้อเสีย

• พักฟื้นนานกว่า
• เนื่องจากเป็นวัสดุทำขึ้นมาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ ร่างกายอาจจะไม่ยอมรับได้
• ผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมัน (Fat Graft)

การเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมัน เป็นการเสริมสะโพกอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน ศัลยแพทย์จะทำการดูดไขมันส่วนเกินจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง เอว หรือต้นขา

จากนั้นศัลยแพทย์จะฉีดไขมันเข้าไปที่สะโพก เพื่อเสริมสะโพกให้มีขนาดที่สวยงามมากยิ่งขึ้น

ข้อดี

• เป็นไขมันของตัวเอง

ข้อเสีย

• ไม่สามารถแก้ก้นห้อยได้
• ก้นสองข้างอาจจะไม่เท่ากัน ข้างไหนไขมันจะสลายมากกว่ากัน
• ไขมันที่ฉีดเข้าไปบางส่วนจะสลายไป ขนาดของก้นหลังผ่าตัดใหม่ ๆ กับหลังผ่าตัด 6 เดือนจะต่างกันมาก
• มีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณที่ฉีด อาจจะไม่ได้มากเท่าที่ต้องการ
• ผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยการใช้ถุงซิลิโคน ร่วมกับ การผ่าตัดยกกระชับ (Buttock Implants  and lift)

เป็นการยกกระชับสะโพกที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเด้งเต่งตึงอีกครั้ง โดยการผ่าตัดนำผิวหนังส่วนที่หย่อนคล้อยบริเวณสะโพกออก จะมีแผลซ่อนอยู่ที่ขอบบิกินีไลน์ด้านหลัง การผ่าตัดอาจจะเป็นการผ่าตัดยกกระชับสะโพกอย่างเดียว หรือ มีการเสริมด้วยถุงซิลิโคนหรือและฉีดไขมันร่วมด้วย

• ข้อดี
• การเสริมซิลิโคนสามารถแก้ปัญหาก้นห้อยในกรณีที่ก้นห้อยและมีหนังเหลือเยอะมาก เทคนิคนี้สามารถปรับรูปร่างของสะโพกและลำตัวได้
• สามารถกำหนดขนาดที่ต้องการได้
• สามารถผ่าตัดได้ทันทีแม้ไม่มีไขมัน
• เมื่อต้องการเอาออกสามารถเอาออกได้ทั้งถุงซิลิโคน

ผู้ที่เหมาะสมทำการผ่าตัดเสริมสะโพก

• ผู้ที่มีสะโพกแบน เล็ก หรือห้อย
• ผู้ที่มีความคาดหวังอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
• ผู้ที่มีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง สามารถดมยาสลบได้
• ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด

• เส้น ประสาท การกระทบกระเทือนเส้นประสาทพบได้น้อยเพราะเส้นประสาทอยู่ในตำแหน่งที่ลึก มาก ๆ โดยทั่วไป อาการที่พบบ่อยคือรู้สึกร้อนหรือเย็นบริเวณแก้มก้นหรืออาจจะชาโดยทั่วไปมัก จะดีขึ้นในเวลา 2-3 เดือน
• พังผืดหดรัด พบน้อยกว่าการเสริมหน้าอกมากเพราะกล้ามเนื้อสะโพกมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาจึงมักทำให้พังผืดนิ่มเสมอ
• เลือดออก โดยทั่วไปหลังการผ่าตัดจะใส่สายระบายน้ำเหลืองไว้ 2 – 3 วัน ดังนั้น การเกิดเลือดคั่งจึงเกิดได้น้อย
• การติดเชื้อพบได้น้อยมาก แต่ถ้าเกิดขึ้นทั่วไปควรเอาออกแล้วถ้าต้องการทำใหม่ให้รอ 3 เดือน

บทสรุป

สะโพกวัดตรงไหน ปัจจุบันนี้สาว ๆ อยากมีสะโพกที่สวย ดูดีได้รูปทรงที่งดงามกันทั้งนั้น และหากอยากมีสะโพกที่สวยงามคงต้องเข้ารับการทำศัลยกรรมเสริมสะโพกกันทั้งนั้น ซึ่งก่อนที่จะเข้ารับบริการท่านจะต้องทำการศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ทั้งเรื่องของสถานบริการที่ต้องได้รับมาตรฐาน และแพทย์ที่จะให้บริการต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงจะได้รับความปลอดภัย