การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว สำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะในประเทศไทย นี่คือ 10 อันดับคลินิกที่ดีที่สุดในปี 2024 แต่ก่อนที่จะไปดูคลินิกที่ดีที่สุด เรามาดูเหตุผลที่ต้องตัดสินใจเข้ารับการตัดกระเพาะกันก่อนดีกว่า
เหตุผลที่ต้องตัดกระเพาะ
การผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery) มีเหตุผลหลักหลายประการที่ทำให้ผู้ป่วยเลือกใช้วิธีนี้
- การลดน้ำหนักที่ไม่สำเร็จด้วยวิธีอื่น : ผู้ป่วยหลายคนที่พยายามลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายแต่ไม่ประสบความสำเร็จ อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดกระเพาะเป็นทางเลือกสุดท้าย
- การรักษาโรคแทรกซ้อนจากโรคอ้วน : การผ่าตัดกระเพาะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- การปรับปรุงคุณภาพชีวิต : การผ่าตัดกระเพาะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ออกกำลังกายได้มากขึ้น และลดการเจ็บป่วยจากน้ำหนักที่มากเกินไป
- การปรับฮอร์โมนและการดูดซึมอาหาร : การผ่าตัดกระเพาะช่วยลดการผลิตฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกหิว และลดการดูดซึมอาหาร ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและทานอาหารได้น้อยลง
- การลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร : การผ่าตัดกระเพาะช่วยลดน้ำหนักในระยะยาวและลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน
- การฟื้นตัวเร็วและความปลอดภัยสูง : ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดส่องกล้องที่ทันสมัย ทำให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยสูง แผลผ่าตัดเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะ
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery) เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากเพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- การตรวจร่างกายและการทดสอบต่าง ๆ : ตรวจเลือด, อัลตราซาวนด์, เอกซเรย์, ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, ตรวจสมรรถภาพปอด และส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีความผิดปกติใด ๆ ของกระเพาะอาหาร
- การเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการ : ปรึกษานักโภชนาการเพื่อประเมินและปรับการรับประทานอาหารหลังผ่าตัดกระเพาะ
- การทดสอบสภาพจิตใจ : ทดสอบกับนักจิตวิทยาเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีโรคทางจิตเวชสำคัญที่ห้ามการผ่าตัด และเตรียมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลังผ่าตัด
- การประเมินภาวะโรคที่มีความเสี่ยง : ประเมินโรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง และโรคอื่น ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อการผ่าตัด.
- การตรวจการนอนหลับ : ตรวจการนอนหลับ STOP – BANG และ Sleep Test
- การออกกำลังกาย : เรียนรู้วิธีออกกำลังกายก่อนและหลังผ่าตัดอย่างถูกต้องกับแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
- การงดสูบบุหรี่และการงดน้ำและอาหาร : งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 4 สัปดาห์ และงดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการผ่าตัด 6 – 8 ชั่วโมง
- การแจ้งแพทย์เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการใช้ยา : แจ้งแพทย์หากไม่แน่ใจว่าตั้งครรภ์ และปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยา อาหารเสริม สมุนไพร
- การป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน : ผู้ป่วยทุกรายจะได้รับยาฉีดป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันก่อนการผ่าตัดกระเพาะอาหาร 12 ชั่วโมง
การดูแลหลังตัดกระเพาะ
- การรับสารอาหารและน้ำ : รับสารอาหารและน้ำทางสายน้ำเกลือจนกว่าจะรับประทานอาหารเองได้
- การป้องกันภาวะแข็งตัวในเส้นเลือดดำ : ใส่ปลอกสวมขาเพื่อป้องกันภาวะแข็งตัวในเส้นเลือดดำ และเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายโดยเร็ว
- การควบคุมอาหาร : ควบคุมอาหารตามที่นักกำหนดอาหารวางแผนและให้คำปรึกษาอย่างเคร่งครัด
- การออกกำลังกาย : เริ่มออกกำลังเบา ๆ ได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 หลังการผ่าตัด และงดยกของหนัก 3 เดือน
- การพบแพทย์ตามนัด : พบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัดเพื่อตรวจเช็กร่างกาย
- การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด : รับประทานอาหาร 3 มื้อต่อวัน ห้ามทานจุบจิบ, หยุดทานทันทีที่รู้สึกอิ่ม, ตัดอาหารชิ้นเล็ก เคี้ยวให้ละเอียดจนเหลวก่อนทาน, ดื่มน้ำเปล่าระหว่างมื้อบ่อย ๆ โดยจิบทีละน้อย
10 อันดับ คลินิกตัดกระเพาะที่ไหนดี 2024
1. รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ (Rattinan Medical Center )
- นำทีมโดย น.อ. นพ.ปณต ยิ้มเจริญ : ศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญพิเศษด้านศัลยศาสตร์ส่องกล้องและการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก
- เทคนิค Double Lock : ใช้เทคนิค Double Lock เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการผ่าตัด, ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
- การติดตามผลและดูแลหลังการผ่าตัด : มีการติดตามผลและดูแลหลังการผ่าตัดนานถึง 1 ปี, ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
2. โรงพยาบาลพระรามเก้า (Praram 9 Hospital)
- เทคโนโลยี 4K-Full HD : ใช้เทคโนโลยี 4K-Full HD ในการผ่าตัดแบบส่องกล้อง, ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำและชัดเจน
- ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการทำหัตถการผ่าตัดแผลเล็ก, ลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
- การติดตามอาการหลังการผ่าตัด : มีการติดตามอาการและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดหลังการผ่าตัด, ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
3. โรงพยาบาลกรุงเทพ (Bangkok Hospital)
- มาตรฐานรับรองจากสถาบัน JCI : ได้รับมาตรฐานรับรองจากสถาบัน JCI, ยืนยันคุณภาพและความปลอดภัยในการรักษา
- ทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : มีทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขา, ให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย.
- การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร : การผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหารทำให้ร่างกายนำไขมันส่วนเกินสลายไปเป็นพลังงาน, ช่วยลดน้ำหนักและปรับปรุงสุขภาพ.
4. โรงพยาบาลสมิติเวช (Samitivej Hospital)
- การยอมรับโดยสถาบัน JCI : ได้รับการยอมรับโดยสถาบัน JCI, ยืนยันคุณภาพและมาตรฐานการรักษา.
- ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์, ให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย.
- เกณฑ์การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก : การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักจะทำได้เมื่อมีดัชนีมวลกาย (BMI) สูงกว่า 40 หรือมีปัญหาสุขภาพที่สามารถแก้ไขได้หากน้ำหนักลดลง, ช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย.
5. โรงพยาบาลรามาธิบดี (Ramathibodi Hospital)
- ศูนย์รักษาโรคอ้วน : มีศูนย์รักษาโรคอ้วนโดยเฉพาะ, ให้การรักษาและคำปรึกษาที่ครอบคลุม
- การตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัด : มีการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดก่อนการผ่าตัด, เพื่อประเมินความพร้อมของผู้ป่วย
- การควบคุมโรคร่วม : ทีมแพทย์ต้องประเมินและควบคุมโรคร่วมที่คนไข้มีให้มีความเสี่ยงต่ำที่สุด, เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัย
6. โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล (Bangpakok 9 International Hospital)
- ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีทันสมัย : มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย, ให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพ
- การรักษาโรคอ้วนด้วยบอลลูนในกระเพาะอาหาร : การรักษาโรคอ้วนด้วยวิธีใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร, ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ภาวะแทรกซ้อนน้อย : มีภาวะแทรกซ้อนน้อยและสามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 20 – 30 กิโลกรัมต่อปี, ช่วยปรับปรุงสุขภาพและคุณภาพชีวิต
7. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (Bumrungrad International Hospital)
- เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง : ใช้เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery), ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำและปลอดภัย
- ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง, ให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- ความแม่นยำและปลอดภัยสูง : การผ่าตัดมีความแม่นยำและปลอดภัยสูง, ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
8. โรงพยาบาลเพชรเวช (Petcharavej Hospital)
- แพ็คเกจการผ่าตัดกระเพาะอาหาร : มีแพ็คเกจการผ่าตัดกระเพาะอาหารที่ครอบคลุม, ให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
- การประเมินและตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัด : มีการประเมินและตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัดอย่างละเอียด, เพื่อประเมินความพร้อมของผู้ป่วย
- การผ่าตัดแบบส่องกล้อง : การผ่าตัดแบบส่องกล้องทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว, ลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
9. โรงพยาบาลพญาไท (Phyathai Hospital)
- แพ็กเกจการผ่าตัดกระเพาะอาหาร : มีแพ็คเกจการผ่าตัดกระเพาะอาหารที่หลากหลาย, ให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
- ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง, ให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย.
- การผ่าตัดแบบส่องกล้อง : การผ่าตัดแบบส่องกล้องทำให้ฟื้นตัวได้เร็วและมีความเสี่ยงต่ำ, ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
10. โรงพยาบาลศิริราช (Siriraj Hospital)
- เกณฑ์การรับผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัด : มีเกณฑ์การรับผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดตามมาตรฐานสากล, เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัย.
- ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง, ให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย.
- การผ่าตัดแบบส่องกล้อง : การผ่าตัดแบบส่องกล้องทำให้ฟื้นตัวได้เร็วและมีความเสี่ยงต่ำ, ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
สรุป
การตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ในประเทศไทยมีคลินิกหลายแห่งที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับการยอมรับในระดับสากล การเลือกคลินิกที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ทั้งในด้านความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพอใจ การจัดอันดับ 10 คลินิกที่ดีที่สุดในปี 2024 นี้ จึงเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาการผ่าตัดกระเพาะ เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและได้รับการบริการที่มีคุณภาพสูงสุด
