กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ( Piriformis Syndrome ) เป็นความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เกิดจากกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสบริเวณก้นใกล้กับสะโพกไปกดทับเส้นประสาทไซอาติกที่อยู่ใกล้กัน ส่งผลให้รู้สึกปวดบริเวณก้นร้าวไปยังขา ถ้าหากมีอาการร้ายแรงมาก อาจส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนั่ง เช่น นั่งทำงาน หรือขับรถ เป็นต้น วิธีรักษากล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท pantip มีวิธีการรักษาหลากหลายรูปแบบวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทว่าเป็นอย่างไรและมีวิธีดูแลและป้องกันอย่างไร หากเป็นเราจะได้รักษาได้ทันค่ะ
อาการของกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
กล้ามเนื้อที่อยู่ภายในก้นใกล้กับสะโพก มีหน้าที่รักษาสมดุลของสะโพกและก็ช่วยทำให้ต้นขาเคลื่อนไหวไปยังทิศทางต่าง ๆ ได้จึงจำเป็นต่อการรักษาสมดุลของร่างกายและก็การทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะต้องใช้ลำตัวส่วนล่าง ถ้าหากกล้ามกล้ามเนื้อประเภทนี้ไปกดทับเส้นประสาทไซอาติก ซึ่งเป็นเส้นประสาทขนาดใหญ่ที่พาดผ่านขาทั้ง 2 ข้าง อาจส่งผลให้เกิดอาการ ดังนี้
- ปวดและชาที่ก้นร้าวไปยังขาทั้ง 2 ข้าง
- รู้สึกเจ็บเมื่อใช้มือกดบริเวณก้น
- ปวดหลังช่วงล่าง
ทั้งนี้ ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้นเมื่อต้องนั่งเป็นเวลานานหรือทำกิจกรรมที่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวลำตัวส่วนล่าง ดังเช่น วิ่ง หรือขึ้นบันได ถ้ามีอาการรุนแรงมากก็อาจทำให้ไม่สามารถที่จะดำเนินชีวิตตามปกติได้
สาเหตุของกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
- เคลื่อนไหวร่างกายส่วนล่างผิดท่า
- ออกกำลังกายมากเกินไป
- วิ่งหรือทำกิจกรรมที่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวขาอย่างต่อเนื่อง
- นั่งเป็นเวลานาน
- ยกของหนัก
- เกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายส่วนล่าง ได้แก่ ลื่นล้ม ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เป็นต้น
การรักษากลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
หมอมักแนะนำให้คนไข้ที่มีอาการไม่รุนแรงนักรักษาตัวเองแบบประคับประคองจนอาการหายไปเอง โดยคนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่อาจกระตุ้นให้อาการปวดกำเริบ
- ประคบเย็นและประคบร้อนบริเวณก้นและขาทุก 2-3 ชั่วโมง โดยขั้นแรกให้ห่อเจลเก็บความเย็นด้วยผ้าแล้วประคบบริเวณที่ปวด 15-20 นาที จากนั้นจึงใช้ถุงเก็บความร้อนประคบต่อ 15-20 นาที
- กินยาแก้ปวด เช่น ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน เป็นต้น
ถ้าเกิดทำตามคำแนะนำดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องรับการรักษาด้วยวิธีดังต่อไปนี้
การออกกำลังกาย
ออกกำลังกายและยืดกล้ามเนื้อด้วยท่าต่าง ๆ ซึ่งท่ายืดกล้ามเนื้อขั้นพื้นฐานที่สามารถทำได้ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- นอนราบกับพื้นแล้วชันเข่าทั้ง 2 ข้างเป็นท่าเตรียมพร้อม
- ยกข้อเท้าซ้ายขึ้นแล้ววางพาดไว้บนหัวเข่าขวา
- ใช้มือดึงหัวเข่าขวาเข้าหาอก แล้วค้างไว้ 5 วินาที
- ค่อย ๆ วางขากลับไปยังท่าเตรียมพร้อม
- สลับมายกข้อเท้าขวาในท่าเดียวกัน
- ทำซ้ำแบบนี้อีก 1 รอบ
การใช้ยารักษา
ฉีดยาที่มีฤทธิ์ช่วยทำให้กล้ามเนื้อชา หรือยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ การกระตุ้นเส้นประสาท กระตุ้นเส้นประสาทผ่านทางผิวหนังเพื่อลดความเจ็บปวด (Transcutaneous Electrical Nerve Stimulator) หรือ TENS โดยใช้กระแสไฟฟ้ารบกวนการทำงานของสัญญาณในสมองที่กระตุ้นให้รู้สึกเจ็บปวด ซึ่งจะทำให้คนไข้รู้สึกปวดน้อยลง
การผ่าตัด
บางกรณีที่เป็นรุนแรงและไม่สามารถรักษาได้ด้วยตนเอง หมออาจต้องผ่าตัดเพื่อแก้ไขการกดทับที่เส้นประสาท
ภาวะแทรกซ้อนของกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
- โดยปกติ อาการปวดที่เกิดขึ้นจะค่อย ๆ หายไปได้เองโดยไม่ต้องเข้ารับการรักษา
- มีความเสี่ยงที่กล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสจะกดทับเส้นประสาทไซอาติกและสร้างความเสียหายแก่เส้นประสาทอย่างถาวรได้
- ขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างสูญเสียความรู้สึกหรือไม่มีแรง
- ไม่สามารถควบคุมการปัสสาวะของตนเองได้
การป้องกันกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
แม้สาเหตุหนึ่งของ Piriformis Syndrome คือ การออกกำลังกายผิดวิธี แต่ในทางตรงกันข้าม การออกกำลังกายด้วยท่าทางที่ถูกต้องในระยะเวลาที่เหมาะสมอาจเกิดผลดีต่อร่างกายแล้วก็ช่วยป้องกันกลุ่มอาการนี้ได้เช่นกัน ซึ่งอาจทำได้ ดังต่อไปนี้
- อบอุ่นร่างกายและยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง
- เพิ่มระดับการออกกำลังกายเพียงทีละน้อย
- หลีกเลี่ยงการวิ่งบนทางลาดชันหรือพื้นผิวที่ขรุขระ
- หลีกเลี่ยงการนั่งหรือนอนในท่าเดิมเป็นเวลานาน
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ควรจะรีบรักษาให้เร็วที่สุดอย่าให้เป็นเรื้อรัง เพราะอาการเรื้อรังจะทำให้เราปวดสะโพกและทรมาน ไม่สามารถจะออกไปไหนได้ ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้นหากเป็นเรื้อรัง ทางที่ดีหากรู้ตัวว่ามีอาการดังกล่าวควรรีบปรึกษาหมอเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพื่อสุขภาพของตัวคุณเองค่ะ