อาการปวดสะโพก ปวดเอว ปวดหลัง ร้าวลงขา เป็นอาการที่พบได้บ่อยมากในทุกเพศทุกวัย โดยอาการของผู้ป่วยแต่ละรายจะแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามผู้ป่วยมักจะมีอาการอย่างน้อย 1 อาการดังต่อไปนี้
- ปวดสะโพกหรือขาข้างเดียว ตลอดเวลา
- อาการปวดเป็นมากขึ้นเวลานั่ง
- อาการปวดขามักเป็นแบบ แปล๊บ ๆ ร้าว ๆ หรือแสบร้อน
- มีอาการกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง หรือขาชา
- มีอาการปวดฉับพลันเวลาจะลุกจากที่นอน หรือลุกจากท่านั่ง
- อาการปวดที่ร้าวบางทีลงไปถึงน่องหรือเท้า
สาเหตุที่พบบ่อยของการปวดสะโพก
- การใช้งานเกินกำลัง เช่นยกของหนัก ออกกำลังกายเกินกำลัง
- การใช้งานในอิริยาบถเดิมนาน ๆ เช่น นั่งนาน ยืนนาน เดินนาน
- การใช้งานในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง เช่น นั่งไหล ๆ เอน ๆ กึ่งนั่งกึ่งนอน นั่งหมิ่นเก้าอี้ ยืนทิ้งน้ำหนักขาข้างเดียว
- อุบัติเหตุ เช่นการหกล้มก้นกระแทก เข่ากระแทก อุบัติเหตุจากรถยนต์ รถจักรยานยนต์
- ความเสื่อมของร่างกาย เช่นข้อสะโพกเสื่อม กระดูกสันหลังเสื่อมและทรุด
- หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- กระดูกสันหลังเสื่อม กระดูกสันหลังชิ้นใดชิ้นหนึ่งมีการเคลื่อนไปข้างหน้า หรือข้างหลัง
- มากกว่ากระดูกสันหลังชิ้นอื่นๆ ทำให้เกิดความดันในเส้นประสาท
- โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ กระดูกสันหลังที่มีเส้นประสาทไขสันหลังตีบ หรือแคบลงพบมากในผู้สูงอายุ เนื่องจากในขณะที่เรามีอายุเพิ่มมากขึ้น กระดูกจะมีการเสื่อมสภาพตามวัย ทำให้กระดูกตีบและแคบ สร้างแรงกดดันต่อเส้นประสาทเป็นสาเหตุที่ทำให้ เกิดอาการปวดสะโพกร้าวลงขา โดยเฉพาะเมื่อนั่งนาน ๆ นั่งหลังค่อมหลังงอ จะทำให้แรงกดต่อเส้นประสาทเพิ่มขึ้นมา
อาการชาและปวดมีสาเหตุมาจากการอักเสบของเส้นประสาทไซอาติก โดยส่วนใหญ่แล้วอาการอักเสบจะทุเลาลงโดยใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน ในระหว่างนั้นหากอาการปวดรุนแรงขึ้นก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ บางครั้งหากระดับการอักเสบรุนแรงขึ้นอาจจะมีอาการชาและปวดต่อเนื่องนานประมาณหนึ่งเดือนแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่ของกรณีที่มีอาการดีขึ้นเองตามธรรมชาติมักจะมีสาเหตุจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทในระดับเล็กน้อยหรือโรคข้อสันหลังอักเสบ เป็นต้น การจัดการก็ทำเช่นเดียวกันกับอาการเคล็ดขัดยอกที่มือและเท้าเป็นพื้นฐานการรักษาจากจุดเริ่มต้นซึ่งก็คือการเฝ้าสังเกตการณ์
นอกจากนี้ยังมีการนวดอาการปวดสะโพกได้ใช้ท่านวดดัดตนแก้ปวดสะโพก อาการปวดจะทุเลาลง ซึ่งท่าดัดตนแก้ปวดสะโพก จะแบ่งออกเป็น 5 ท่าย่อยดังนี้
ท่านวดดัดตนแก้ปวดสะโพก
1.ท่าโก่งธนู
ผู้รับการนวดนอนหงาย ชันเข่าข้างที่สะโพกปวดขึ้น ผู้นวดจับข้อเท้าผู้รับการนวดขึ้น แล้วงอเข้าหาอก จากนั้นผู้นวดใช้มือข้างที่ว่างอยู่สอดใต้ขาพับของผู้รับการนวด แล้วกดเข้าหาตัวผู้รับการนวด
จากนั้นผู้นวดดันข้อเท้าผู้รับการนวดไปข้างหน้าให้ตั้งฉากกับลำตัว ในท่าโก่งธนูนี้จะทำให้ผู้รับการนวดรู้สึกตึงบริเวณกล้ามเนื้อสะโพกเล็กน้อย
2. ท่าไขว้ขาขัดเข่า
ผู้รับการนวดนอนหงายชันเข่าขึ้นหนึ่งข้าง ผู้นวดนั่งคุกเข่าคร่อมขาข้างที่เหยียดของผู้รับการนวดไว้ ผู้นวดใช้มือข้างขวายกข้อเท้าของผู้รับการนวดขึ้นขัดกับเข่าของตนเอง จากนั้นใช้มือข้างซ้ายกดบริเวณต้นขาด้านข้าง3 รอบ
3. ท่าดันเข้าหาอก
ผู้รับการนวดนอนหงายชันเข่าทั้ง 2 ข้างขึ้น ผู้นวดยกเท้าของผู้รับการนวดขึ้นไขว่ห้าง จากนั้นผู้นวดใช้มือจับบริเวณเข่าและปลายเท้า (ข้างที่ไขว่ห้างของผู้รับการนวด) ดันเข้าหาอกของผู้รับการนวดจนรู้สึกตึงบริเวณกล้ามเนื้อสะโพก
4. ท่าบิดเอว
ผู้รับการนวดนอนหงาย จากนั้นยกขาข้างที่ปวดสะโพกขึ้นไขว่ห้างข้ามขาอีกข้างที่เหยียดตรง ผู้นวดใช้มือซ้ายกดบริเวณบ่าของผู้รับการนวด และใช้มือขวากดเข่าของผู้รับการนวดไปด้านหน้าจนเข่าชิดพื้น
5. ท่ายุงพิชิตลำแพน
ผู้รับการนวดนอนหงายในท่าไขว่ห้าง ผู้นวดยกเท้าข้างที่ไขว่ห้างของผู้รับการนวดโยกขึ้นไปจนเกือบถึงศีรษะของผู้รับการนวด
แต่ในกรณีที่มีอาการต่อเนื่องมากกว่าหนึ่งเดือน อาการปวดรุนแรงขึ้นมากหรือมีอาการเกิดขึ้นซ้ำต่อเนื่องจำเป็นต้องไปตรวจหาสาเหตุ เพื่อหาวิธีรักษาอาการปวดสะโพก เพราะเป็นไปได้ว่าอาจจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด