กางเกงเสริมสะโพกทำเอง

สาว ๆ ท่านได้ที่ต้องการเสริมสะโพกเพื่อให้ตัวเองมีทรวดทรงดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งขึ้น โดยการเสริมสะโพกในยุคนี่สามารถทำการผ่าตัด เสริมสะโพกแบบใช้ซิลิโคน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทำศัลยกรรมที่กำลังได้รับความนิยมมากในสาว ๆ ที่มีความต้องการให้สะโพกหรือก้นใหญ่ขึ้น ซึ่งการเสริมสะโพกในบ้านเรานั้นยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับการเสริมหน้าอก แต่ก็ถือเป็นอีกทางเลือกของการศัลยกรรมปรับรูปร่างที่เริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้สัดส่วนดูสวยงามสมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังมีสาว ๆ บางคนที่กลัวการทำศัลยกรรมจึงต้องหาวิธีอื่นที่นอกเหนือจากการออกกำลังกาย นั่นก็คือการใส่กางเกงเสริมสะโพกทำเอง นั่นเอง

การผ่าตัดเสริมสะโพกเหมาะกับใคร ?

• การผ่าตัดเสริมสะโพกนั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีรูปร่างโดยรวมไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง
• การผ่าตัดเสริมสะโพกนั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีบั้นท้ายไม่มีวอลลุ่ม ฟีบแบน
• การผ่าตัดเสริมสะโพกเหมาะกับผู้ที่สะโพกขาดวอลลุ่มจากการลดน้ำหนัก

ในการผ่าตัดเสริมสะโพกนั้นแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณร่องก้น และเสริมซิลิโคนใส่ไว้ภายในกล้ามเนื้อ ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้รูปทรงของสะโพกสวยงาม ผู้เข้ารับบริการสามารถเลือกขนาดของซิลิโคนได้ มีหลายขนาดแล้วแต่ความชอบของผู้เข้ารับบริการ ในการเลือกขนาดซิลิโคนนั้นผู้เข้ารับบริการไม่ควรเลือกขนาดที่ใหญ่เกินไปเพราะอาจจะมีปัญหาหลังผ่าตัดได้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ทำการประเมินโดยดูจากความเหมาะสมกับแต่ละคน

ขั้นตอนในการผ่าตัดเสริมสะโพกแพทย์จะทำการผ่าบริเวณร่องก้น ยาวประมาณ 4 – 5 ซม. จากนั้นใส่ถุงซิลิโคน เป็นรูปทรงกลมหรือทรงรี (หยดน้ำ) ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำตามความเหมาะสม เข้าไปใต้กล้ามเนื้อก้นที่อยู่ระหว่างกล้ามเนื้อส่วนนอกและส่วนกลาง ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ที่ช่วยลดปัญหาการเคลื่อนที่ของถุงซิลิโคน การผ่าตัดเสริมสะโพกแบบนี้กำลังได้รับความนิยมเนื่องจากสามารถซ่อนแผลได้ดี ทำให้เห็นไม่ชัด และเปิดแผลเพียงแผลเดียว ก็สามารถทำได้ทั้ง 2 ข้าง

ซิลิโคนที่ทางการแพทย์ใช้ในการเสริมสะโพกนั้นจะมีลักษณะแบนและมีความกว้างกว่าซิลิโคนหน้าอก และจะเป็นซิลิโคนเจลชนิดพิเศษที่มีความหนาแน่นมาก ซึ่งจะมีความแข็งและยืดหยุ่นน้อยกว่าซิลิโคนหน้าอก ทำให้ทนต่อแรงกดได้มากกว่า เพราะการเสริมสะโพกเป็นการใส่ถุงซิลิโคนในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวและกดทับมากกว่าบริเวณหน้าอกนั่นเอง โดยรูปทรงของซิลิโคนที่ใส่นั้นจะมีทั้งทรงกลมซึ่งจะมีรูปร่างกลมและแบนเหมาะสำหรับเสริมบริเวณสะโพกด้านใน หรือ บริเวณก้น และจะมีรูปทรงหยดน้ำหรือทรงรี โดยตัวซิลิโคนจะมีรูปทรงวงรีเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมด้านข้างของสะโพกโดยมีข้อดีคือ มีเมื่อเสริมแล้วจะได้ธรรมชาติที่ไม่ต่างกับการสวมกางเกงเสริมสะโพกทำเอง

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดเสริมสะโพก

• ก่อนเข้ารับบริการหากมีโรคประจำตัวหรือยาที่รับประทานเป็นประจำควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
• หากผู้เข้ารับบริการรับประทานยาละลายลิ่มเลือด หรือยากที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
• ก่อนเข้ารับบริการผ่าตัดเสริมสะโพกอย่างน้อย 1 เดือน ผู้เข้ารับบริการควรงดรับประทานอาหารเสริมประเภทวิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย ฯลฯ
• ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมสะโพกผู้เข้ารับบริการควรงดน้ำและอาหารเป็นเวลา 8 ชั่วโมง
• ก่อนเข้ารับการผ่าตัดผู้เข้ารับบริการควรสระผมให้เรียบร้อย และงดแต่งหน้าในวันผ่าตัด
• งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด
• ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมสะโพกอย่างน้อย 4 สัปดาห์ควรงดสูบบุหรี่ เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือดและทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล มีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ผ่าตัดลดลง โดยมีโอกาสให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดออกซิเจน ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
• ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมสะโพก 2 วันผู้เข้ารับบริการควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• ผู้เข้ารับบริการต้องเข้ารับการตรวจเลือดที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 5 – 7 วันก่อนวันผ่าตัด
• กรณีที่ผู้เข้ารับบริการมีอายุเกิน 45 ปี ต้องมีผลตรวจสุขภาพและใบรับรองแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 
• ผู้เข้ารับบริการผ่าตัดเสริมสะโพกจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และผู้เข้ารับบริการควรทราบว่าหลังทำการผ่าตัดย่อมเกิดการบวมช้ำบริเวณแผลหรือบริเวณสะโพกที่ทำการผ่าตัด

การดูแลหลังผ่าตัดเสริมสะโพก

• หลังทำการผ่าตัดผู้เข้ารับบริการต้องนอนคว่ำอย่างน้อย 7 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้แผลแยกและทำให้แผลหายเร็วขึ้นหลังจากนั้น สามารถนอนตะแคงสลับการนอนคว่ำ เป็นเวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ และต้องใส่กางเกงยกกระชับสะโพก อย่างน้อย 1 เดือนเพื่อช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น
• หลังทำการผ่าตัดเสริมสะโพกแพทย์จะทำการใส่สายระบายเลือด น้ำเหลืองประมาณ 2 – 3 วัน
• หลังทำการผ่าตัด 1 – 2 สัปดาห์ ผู้เข้ารับบริการสามารถออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อเป็นการยืดกล้ามเนื้อ โดยการงอหัวเข่าขึ้นประมาณ 4 – 5 ครั้งต่อวันก็จะช่วยให้เดินได้ปกติเร็วขึ้น (ควรปรึกษาแพทย์)
• หลังการผ่าตัด 3 วัน ผู้เข้ารับบริการสามารถเดินหรือนั่งได้แบบช้า ๆ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกปวดตึงอยู่บ้าง
• ในกรณีที่มีการดูดไขมันร่วมด้วยอาจต้องใส่ชุดสำหรับดูดไขมันประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ขึ้นไป
• หลังจากที่ได้ทำการผ่าตัดผ่านไป 2 – 3 วันแพทย์จะทำการเปิดผ้าพันแผลและเมื่อเปิดแผลแล้วควรทำแผลทุกวันจนกว่าจะตัดไหม
• ผู้เข้ารับบริการผ่าตัดเสริมสะโพกสามารถออกกำลังกายหลังผ่าตัดผ่านไป 4 สัปดาห์
• การผ่าตัดเสริมสะโพกนั้นจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนตั้งแต่วันแรก แต่ก็จะยังมีอาการบวมอยู่ โดยก้น/สะโพกจะดูนิ่มและเป็นธรรมชาติประมาณ 2 – 3 เดือนขึ้นไปหลังผ่าตัด

สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการมีสะโพกที่ผาย และมีก้นที่กลมมน หากไม่ต้องการที่จะใส่กางเกงเสริมสะโพกทำเองสามารถทำศัลยกรรมเสริมสะโพกได้ ซึ่งก่อนที่จะเข้ารับการทำศัลยกรรมจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดไม่ว่าจะเป็นคลินิกที่ให้บริการหรือแม้กระทั่งแพทย์ที่จะให้บริการซึ่งแพทย์จะต้องมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้เข้ารับบริการเอง