สะโพกผายเกิดจาก ผู้หญิงกับรูปร่างที่ดูดีมักเป็นของคู่กัน แต่สิ่งที่ผู้หญิงมักจะกังวล มีอยู่ 3 จุดใหญ่ ๆ ดังนี้ เอว อก และสะโพก ซึ่งผู้หญิงหลายคนต่างก็อยากที่จะมีสะโพกที่ดูสมส่วนกับเรือนร่าง ในบางรายจะมีสะโพกที่เล็กลีบแบน ซึ่งสาว ๆ ส่วนใหญ่มักจะใช้บริการกางเกงเสริมสะโพกกัน เพื่อที่เวลาสวมเสื้อผ้าจะได้มีความมั่นใจ และหากต้องการที่จะมีสะโพกผายที่ถาวร คงต้องหาวิธีที่จะทำให้สะโพกผาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการพึ่งเทคนิคทางการแพทย์ ด้วยการเสริมสะโพก
อยากสะโพกผายต้องทำอย่างไร
ปัญหาหลัก ๆ ของสาวที่สะโพกเล็ก คือ มีเนื้อสะโพกที่น้อย หรือในบางคนมีเนื้อก้นน้อย ก้นลีบแบน ปัจจุบันนี้ได้นำเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยด้วยการเสริมสะโพก ซึ่งการเสริมสะโพกที่นิยม คือ การฉีดไขมันเสริมสะโพก (Fat Transfer Buttock) และการศัลยกรรมเสริมสะโพกซิลิโคน (Buttock Augmentation)
แนะนำบทความยอดนิยม ปลูกผมถาวร จากเว็บไซต์ Rattinan.com
การฉีดไขมันเสริมสะโพก (Fat Transfer Buttock)
ปัจจุบันเทคนิคทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก จนสามารถย้ายเซลล์ไขมันที่อยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมาอยู่ในจุดที่เราต้องการได้ บริเวณที่นิยมนำไขมันมาฉีด คือ ใบหน้า หน้าอก และการฉีดไขมันเสริมสะโพกเริ่มนิยมมากขึ้น เพราะเทรนด์เอวคอด สะโพกผาย เป็นหุ่นในฝันของสาวๆ ยุคนี้เลย
โดยแพทย์จะทำการดูดไขมันในจุดที่เราไม่ต้องการเช่น หน้าท้อง เอว หรือ บริเวณต้นขา เพื่อมาฉีดบริเวณสะโพก แต่อยากให้สะโพก หรือบั้นท้ายเราใหญ่เซ็กซี่แค่ไหนนั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่เรามีด้วยค่ะ
การเสริมสะโพกด้วยซิลิโคน ( Buttock Augmentation)
การเสริมสะโพกด้วยซิลิโคน ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นศัลยกรรมที่มีความปลอดภัย เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่ช่วยเสริมขนาดของสะโพกให้โตขึ้น ทำให้สะโพกมีความสวยงาม การทำศัลยกรรมเสริมสะโพกต้องใช้ซิลิโคนที่มีความแข็งแรงมากกว่า เพราะต้องรองรับแรงกระแทก
การเสริมสะโพกด้วยซิลิโคน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาคนที่สะโพกเล็ก หรือ เนื้อก้นน้อย ซึ่งซิลิโคนที่เลือกใช้ก็แตกต่างกัน คือมีทั้งทรงกลม และทรงหยดน้ำ เพื่อให้รูปทรงของสะโพกออกมาสวยและได้สัดส่วนเหมาะกับรูปร่าง สำหรับคนที่ไม่มีไขมันเลย การเสริมสะโพกด้วยซิลิโคน เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยให้สาวๆ มีรูปร่างที่สวยงามยิ่งขึ้น
การเสริมสะโพกด้วยซิลิโคนร่วมกับการฉีดไขมันตัวเอง
สำหรับบางคนที่ต้องการเสริมสะโพก ให้มีความเป็นธรรมชาติ แพทย์จะใช้เทคนิคการเสริมสะโพกด้วยซิลิโคน ร่วมกับการฉีดไขมัน เพื่อให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติ และสะโพกมีความนุ่มมากขึ้น แต่วิธีนี้ จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
ซิลิโคนที่ใช้เสริมสะโพกมีทั้งหมดกี่แบบ
ซิลิโคนที่ใช้สำหรับผ่าตัดศัลยกรรมเสริมสะโพก มี 2 แบบ คือ แบบทรงกลม และทรงหยดน้ำ และยังมีแบบผิวเรียบ และแบบผิวทราย สำหรับขนาดที่นิยมใช้สำหรับการเสริมสะโพกนั้น จะมีตั้งแต่ขนาด 200-370 CC ทั้งนี้แพทย์จะแนะนำขนาดของซิลิโคนที่เหมาะสมกับรูปร่างของแต่ละคน เพื่อไม่ให้สะโพกมีขนาดใหญ่จนเกินไป เพราะอาจจะเกิดปัญหาหลังผ่าตัดได้
- ซิลิโคนเสริมสะโพกชนิดทรงกลม
เป็นซิลิโคนที่แบนกว่าชนิดซิลิโคนสำหรับเสริมหน้าอก เหมาะสำหรับการใช้เสริมบริเวณสะโพกด้านใน หรือบริเวณบั้นท้าย เพื่อให้บั้นท้ายดูกลมสวย แต่ไม่ควรผ่าตัดเสริมระดับใต้ผิวหนังเพราะอาจจะทำให้สะโพกด้านในนั้นดูไม่สวยเป็นธรรมชาติ
- ซิลิโคนเสริมสะโพกชนิดทรงหยดน้ำ
เป็นซิลิโคนรูปทรงหยดน้ำ เหมาะสำหรับเสริมบริเวณด้านข้างของสะโพก ซึ่งจะทำให้สะโพกดูสวยเป็นธรรมชาติ โดยการผ่าตัดเสริมนั้น ซิลิโคนจะต้องมีการวางตำแหน่งให้เหมือนกันทั้ง 2 ข้าง เพื่อที่จะให้สะโพกสวยดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูแตกต่างกันทั้งสองข้างนั่นเอง
ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมสะโพก
- แพทย์จะทำการวิเคราะห์รูปร่างของผู้เข้ารับบริการ เนื่องจากสะโพกของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน และเลือกวิธีการที่จะใช้ก่อนการผ่าตัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและปลอดภัยที่สุด
- วิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการดมยาสลบให้กับคนไข้ และเฝ้าดูแลในการทำศัลยกรรมอยากใกล้ชิด
- ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณกึ่งกลางสะโพก โดยบาดแผลจะมีความยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร
- แพทย์จะทำการเปิดช่องว่างเพื่อเตรียมทำการนำซิลิโคนใส่เข้าไปในบาดแผลที่เปิดไว้
- แพทย์จะนำซิลิโคนเสริมสะโพกใส่เข้าไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดที่ทีมแพทย์ได้ประเมินไว้ ว่าควรจะเสริมในเทคนิคใด
- แพทย์จะทำการเย็บปิดบาดแผล
- แพทย์จะทำการปิดบาดแผลด้วยผ้ายืดปิดแผล
- ระยะเวลาในการผ่าตัดเสริมสะโพกจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
บทสรุป
สะโพกผายเกิดจาก การออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร ของเหล่าสาว ๆ ที่ต้องการมีสะโพกที่สวยงาม ซึ่งอาจจะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ล่าช้า สาว ๆ ในยุคปัจจุบันนี้ต่างใจร้อนอยากมีสะโพกที่ผายอย่างรวดเร็วคงต้องพึ่งการทำศัลยกรรมเสริมสะโพก ซึ่งก่อนที่จะเข้ารับบริการท่านจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงก่อนที่จะเข้าใช้บริการ