ผู้หญิงทุกคนก็ต้องการหุ่นสมส่วนเหมือนทรงของนาฬิกาทรายกันทั้งนั้น ที่ถือว่าเป็นรูปร่างของผู้หญิงที่ดูดีที่สุดเลยก็ว่าได้ บางคนหุ่นดี แต่ไม่มีก้น ไม่มีสะโพก ลีบแบน เวลาใส่ เสื้อผ้ารัดรูปก็ไม่สวย จำต้องพรางหุ่นด้วยเสื้อผ้าตัวหลวม ๆ นิดหนึ่ง พอคิดจะไปทำศัลยกรรมเสริมสะโพกก็กลัวการผ่าตัด และที่สำคัญเงินในกระเป๋าไม่พอ ดังนั้นเราก็มีวิธีเพิ่มสะโพก วิธีเสริมสร้างกล้ามเนื้อสะโพกมาฝากกัน เป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มสะโพก ทำให้เด้ง กลม เซ็กซี่ สามารถทำได้จริง 100% แบบปลอดภัยมาฝากกันค่ะ
1.อาหารสร้างกล้ามเนื้อสะโพก
การเลือกอาหารที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มสะโพกจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ใช้ว่าต้องการโปรตีนในเนื้อสัตว์แล้วจะทานเนื้ออะไรก็ได้ เพราะเนื้อบางชนิดและบางส่วนมีไขมันแทรกอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสิ่งที่เราต้องการคือโปรตีนที่มีกรดอะมิโนจำเป็น คาร์โบไฮเดรต และไขมันดีเท่านั้น ส่วนโปรตีนคุณภาพมีอยู่ในเนื้อสัตว์อย่างปลาทะเล เนื้อออกไก่ ไข่ เวย์โปรตีน ธัญพืช และเนื้อหมูในส่วนที่ไขมันน้อย สำหรับคาร์โบไฮเดรตจะเป็นมันฝรั่งและอะโวคาโด เป็นต้น นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารสำเร็จรูปและอาหารแปรรูปทุกเมนู เพราะอาหารเหล่านี้จะกักเก็บไขมันในร่างกายและเก็บไว้ที่หน้าท้องมากเกินไป นอกจากการทานอาหารที่เรากล่าวไปข้างต้นในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว การดื่มน้ำให้เพียงพอก็เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ เพราะร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นองค์ประกอบมากถึง 70% ส่วนเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 75%
2.ออกกำลังกายเน้นช่วงก้น
เมื่อมีอาหารที่ดีแล้ว ก็ต้องมีการออกกำลังกายที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน เช่นการ squats, deadlifts และ lunges ท่าเหล่านี้มีประสิทธิภาพมากในการทำให้ช่วงสะโพกสวยขึ้น โดยเฉพาะท่า Squats ที่ถือว่าดีที่สุด จะมีลักษณะเหมือนการลุกนั่ง แต่ให้ยืดแขนออกไปด้านหน้าโดยแบมือหรือยกดรัมเบลไว้เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ก้าวขาออกไปทางด้านข้างให้ห่างจากกันน้อย จากนั้นนั่งลงแล้วทำให้หลังตรงที่สุดพร้อมดันก้นออกไปด้านหลังและดันตัวขึ้น 1 เซ็ต ทำท่านี้ประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกัน 1 เดือน รับรองเลยว่าช่วงสะโพกและก้นของคุณ ๆ จะมีรูปทรงที่สวยมากยิ่งขึ้น
3.อาหารว่างระหว่างวัน
สำหรับสาว ๆ ที่กลัวจะหิวระหว่างวัน ก็สามารถเตรียมอาหารว่าง ที่มีประโยชน์และช่วยเรื่องสะโพกสวยไว้ทานได้ คือ นำกล้วยมาปั่นผสมกับเมล็ดแฟลกซ์ ผลไม้ โยเกิร์ต และแซนวิซเนยถั่ว อาหารว่างเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโปรตีนจำเป็นและไขมันดีให้กับกล้ามเนื้อ และอย่าลืมที่จะดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อทำให้ร่างกายสามารถดึงน้ำไปใช้ในช่วงออกกำลังกายอย่างพอเหมาะด้วย
4.หลีกเลี่ยงอาหารน้ำตาลและเกลือสูง
อาหารประเภท Junk Food มีคาร์โบไฮเดรตก็จริง แต่เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มาพร้อมน้ำตาลและเกลือที่ถือว่าเป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้ออย่างมาก นอกจากไม่ช่วยทำให้กล้ามเนื้อช่วงสะโพกมีมากขึ้นแล้ว ยังเป็นตัวสร้างไขมันเสียกับคาร์ไฮเดรตที่ไม่ดีไปขัดขวางการทำงานของหลอดเลือดและความดันโลหิต ที่สำคัญคือน้ำตาลจะเข้าไปเพิ่มอินซูลินที่เป็นตัวกักเก็บไขมันช่วงหน้าท้องมากกว่าไปอยู่ตรงส่วนของสะโพกอีกด้วย ดังนั้นขนมหวานน้ำตาลสูง อาหารจานด่วน อาหาร Junk Food และเครื่องดื่มไม่มีประโยชน์ต่าง ๆ ควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
5.ปรับพฤติกรรมการการกิน
- เริ่มตั่งแต่มื้อเช้าให้เป็นเมนูที่มีไข่ขาวเท่านั้นประมาณ 3-4 ชิ้นบนจาน พร้อมเพิ่มขนมปังโฮวีต 2 ชิ้น
- มื้อเที่ยงให้ทานเป็นอกไก่อบเพิ่มผักโขม ผักกาดหอม และอะโวคาโดที่เป็นไขมันคุณภาพ
- ช่วงเย็นให้ทานเป็นเนยถั่วกับขนมโฮวีต หรือจะจัดเป็นเนื้อปลาแซลมอนย่างกับหน่อไม้ฝรั่งทานคู่กัน
- หากเป็นอาหารว่างก็จัดเป็นโยเกิร์ตสูตรน้ำตาลน้อยเพิ่มผลเบอร์รี่สดเข้าไป หรือจะทานเป็นขนมที่มีส่วนผสมของข้าวโอ๊ตก็ได้เช่นกัน
- พักผ่อนให้เพียงพอที่ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน งดนอนดึก ตื่นสาย และปาร์ตี้ยามดึกต่างๆ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มน้ำตาลสูง
- ออกกำลังกายด้วยท่าที่เหมาะสมเป็นประจำ ควรทำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้ง 7 วัน ในช่วงแรก เมื่อเริ่มเข้าที่ให้ออกเพียงสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
- จัดตารางการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้กับตัวเอง
- ช่วงแรกให้ใช้เวลาในการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มสะโพก 1-2 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อร่างกายเริ่มชินแล้วให้เพิ่มเป็น 2-3 ชั่วโมงต่อวัน ทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ช่วงเวลา 2-3 สัปดาห์แรกคุณจะเริ่มเห็นผลสะโพกสวยที่ชัดเจนขึ้นและเห็นผลลัพธ์สะโพกเซ็กซี่ได้ใน 6-12 สัปดาห์ อย่าใจร้อนเด็ดขาด! เพราะอาจทำให้คุณเครียดที่รูปร่างไม่เป็นไปดั่งใจจนรู้สึกท้อและทิ้งไปอย่างง่าย ๆ
และหากคุณทำตามที่เราแนะนำได้ ให้ทานผลไม้ให้มากขึ้น กินให้หลากหลาย ระวังหวานเค็ม เลี่ยงอาหารที่มีแคลอรีสูง ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อในขนาดที่พอดี ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตร เพียงเท่านี้ก็จะค่อย ๆ เสริมสร้างกล้ามเนื้อสะโพกของคุณให้เพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องพึงศัลยกรรมเลยก็ว่าได้